- Privacy policy
- นโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัว
1. คำรับรอง
บริษัท เท็มโก้ จำกัด (“บริษัท”) มีความตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอย่างยิ่ง จึงได้จัดทำและเผยแพร่นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและคู่ค้าบุคคลธรรมดา รวมถึงกรรมการ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงานในนามของลูกค้าและคู่ค้านิติบุคคล รวมถึงวิธีการในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวทางการจัดการข้อมูลดังกล่าวอย่างเหมาะสม
บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัทมีการพิจารณาทบทวนและอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามความเหมาะสมอยู่เป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม หากนโยบายนี้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการเผยแพร่ผ่านช่องทางที่เหมาะสม
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
อ้างอิงนิยามตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
บริษัทมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุ พร้อมทั้งฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด บริษัทอาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอ่อนไหวโดยปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ บริษัทมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรง หรืออาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น บริษัทที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงาน เป็นต้น
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลประเภททั่วไป
ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ สัญชาติ รูปถ่าย หมายเลขบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต ประวัติการซื้อสินค้าและบริการ ประวัติการทำธุรกรรมระหว่างท่านกับบริษัท ข้อมูลการบันทึกภาพ เสียง รวมถึงการบันทึกภาพผ่านกล้องวงจรปิด LINE ID และ Facebook account
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอ่อนไหว
ข้อมูลศาสนา ที่ปรากฎตามสำเนาบัตรประชาชนของท่าน
3. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการโดยขึ้นอยู่กับลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท ดังต่อไปนี้
3.1 สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา รวมถึงกรรมการ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงานในนามของลูกค้า
-
เพื่อพิจารณาอนุมัติเข้าทำสัญญา หรือการดำเนินการตามคำขอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทและเพื่อเข้าทำสัญญากับท่านในฐานะคู่สัญญา หรือในฐานะที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงานในนามของนิติบุคคล
-
เพื่อการใช้ผลิตภัณฑ์ สิทธิประโยชน์ หรือบริการต่าง ๆ ของบริษัท รวมทั้งการปฏิบัติตามสัญญา การแจ้งข้อมูลหรือแจ้งเตือนใด ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านมีอยู่กับบริษัท การชำระเงิน การออกใบเสร็จ การออกใบกำกับภาษี การจัดส่งสินค้าหรือบริการ การรับหรือส่งข้อมูลและเอกสารติดต่อระหว่างท่านกับบริษัท และการปฏิบัติตามกระบวนการภายในของบริษัท เช่น การให้เครดิตและจัดประเภทลูกค้า เป็นต้น
-
เพื่อการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าของบริษัท เช่น การติดต่อสื่อสารกับท่านในการให้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท การจัดการข้อร้องเรียน เป็นต้น
-
เพื่อสำรวจความพึงพอใจของท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท และวิเคราะห์ความสนใจของท่าน รวมทั้งประวัติการซื้อผลิตภัณฑ์หรือการใช้บริการ เพื่อประเมิน จัดการ ปรับปรุง ดำเนินการวิจัย วางแผน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และรายการส่งเสริมการขายต่าง ๆ ของบริษัท ให้ตรงตามความต้องการของท่านได้ดียิ่งขึ้น
-
เพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท รายการส่งเสริมการขายต่าง ๆ การดำเนินกิจกรรมทางการตลาด การเชิญชวนเข้าร่วมงานกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ของบริษัท และสื่อสารเกี่ยวกับกิจกรรมและโครงการดังกล่าว รวมทั้งนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ ของบริษัท
-
เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ คำสั่ง ข้อกำหนดและหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท เพื่อรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร หรือเมื่อได้รับหมายเรียก หมายอายัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานราชการ ศาล หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ เพื่อการสืบสวน สอบสวน ตามกระบวนการทางกฎหมายและกฎระเบียบอื่นใด รวมทั้งเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
-
เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคาร และสถานที่ของบริษัท รวมถึงการตรวจสอบบัตรประชาชนของท่าน ก่อนเข้าบริเวณพื้นที่ดังกล่าว การบันทึกภาพผู้ที่มาติดต่อกับบริษัท ณ สถานที่ของบริษัทด้วยกล้องวงจรปิด
-
เพื่อเป็นฐานข้อมูลของบริษัทสำหรับการเข้าทำสัญญากับท่านในอนาคต
3.2 สำหรับคู่ค้าบุคคลธรรมดา รวมถึงกรรมการ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงานในนามของคู่ค้า
-
เพื่อการพิจารณาคุณสมบัติของท่านก่อนเข้าทำสัญญากับบริษัทในฐานะคู่สัญญา หรือในฐานะที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงานในนามของนิติบุคคล และเพื่อการพิจารณาอนุมัติการทำสัญญาระหว่างบริษัทกับท่านหรือนิติบุคคลที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงานในนามของนิติบุคคลดังกล่าว
-
เพื่อปฏิบัติตามสัญญาและการตรวจสอบการปฎิบัติงานตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท รวมถึงการรักษาความปลอดภัยระหว่างการปฏิบัติงานตามสัญญา และเพื่อการปฏิบัติตามกระบวนการภายในของบริษัท เช่น การชำระเงิน การออกใบสั่งซื้อ การออกใบกำกับภาษี การรับหรือส่งข้อมูลและเอกสารติดต่อระหว่างท่านกับบริษัท และการปฏิบัติตามกระบวนการภายในของบริษัท เช่น การให้เครดิตและจัดประเภทคู่ค้า เป็นต้น
-
เพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท รายการส่งเสริมการขายต่าง ๆ การดำเนินกิจกรรมทางการตลาด การเชิญชวนเข้าร่วมงานกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ของบริษัท และสื่อสารเกี่ยวกับกิจกรรมและโครงการดังกล่าว รวมทั้งนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ ของบริษัท
-
เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ คำสั่ง ข้อกำหนดและหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท เพื่อรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร หรือเมื่อได้รับหมายเรียก หมายอายัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานราชการ ศาล หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ เพื่อการสืบสวน สอบสวน ตามกระบวนการทางกฎหมายและกฎระเบียบอื่นใด รวมทั้งเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
-
เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคาร และสถานที่ของบริษัท รวมถึงการตรวจสอบบัตรประชาชนของท่าน ก่อนเข้าบริเวณพื้นที่ดังกล่าว การบันทึกภาพผู้ที่มาติดต่อกับบริษัท ณ สถานที่ของบริษัทด้วยกล้องวงจรปิด
-
เพื่อเป็นฐานข้อมูลของบริษัทสำหรับการพิจารณาเลือกคู่ค้า และ/หรือเลือกจ้างสำหรับโครงการอื่น ๆ ในอนาคต
4. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นภายใต้ขอบเขตของนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ในกรณีต่อไปนี้
-
เมื่อบริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน สำหรับกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอม
-
เพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านและบริษัท
-
เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
-
เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท
ในกรณีที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอ้างอิงความยินยอมเป็นฐานทางกฎหมาย ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมของท่านได้ทุกเมื่อผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านไม่กระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เกิดขึ้นแล้วก่อนการถอนความยินยอมโดยอ้างอิงความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมาย
บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบต่างหาก ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อบริษัทในการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับหรือการปฏิบัติตามสัญญา รวมถึง ผลกระทบหากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว
5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทดำเนินความสัมพันธ์กับท่าน และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของบริษัท
บริษัทอาจมีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหลังจากระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนด อย่างไรก็ตาม เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจะทำลายหรือลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกจากระบบทันที
6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ กรณีที่มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด รวมทั้งจะแจ้งให้ท่านทราบ และขอความยินยอมจากท่านในกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
-
บริษัทย่อย บริษัทในกลุ่ม และบริษัทในเครือ เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจ การบริหารงานภายใน
-
หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร เป็นต้น
-
ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใด ๆ เช่น ผู้ให้บริการขนส่ง ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและระบบชำระเงิน ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายและภาษี ที่ปรึกษาใด ๆ
ในกรณีที่บริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นไปต่างประเทศ บริษัทจะจัดให้มีมาตรการการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เช่น การทำสัญญาแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล สัญญาประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อตกลงระหว่างบริษัทย่อย บริษัทในกลุ่ม และบริษัทในเครือ และจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ ประเทศผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลมีมาตรการการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด หรือ บริษัทได้ขอความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมายจากท่านก่อนการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หากท่านมีความประสงค์ในการรับทราบรายละเอียดมาตรการการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยของบริษัท ท่านสามารถติดต่อขอรับรายละเอียดได้ที่ช่องทางการติดต่อที่ระบุในนโยบายนี้
7. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
-
สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้แก่บริษัท ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
-
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงขอให้บริษัท เปิดเผยถึงการได้มา ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม
-
สิทธิในการให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลจากบริษัทได้ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นได้ตามที่กฎหมายกำหนด
-
สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด
-
สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ด้วยเหตุตามที่กฎหมายกำหนด
-
สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่านด้วยเหตุตามที่กฎหมายกำหนด
-
สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
-
สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้
หากท่านมีความประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อขอใช้สิทธิได้ที่ช่องทางการติดต่อที่ระบุในนโยบายนี้
8. มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้กำหนดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมและเข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ
กรณีที่บริษัทมอบหมายให้บุคคลอื่นดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท บริษัทจะกำกับดูแลบุคคลดังกล่าวอย่างเหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าบุคคลดังกล่าวจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
9. รายละเอียดการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัท ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
บริษัท เท็มโก้ จำกัด
ที่อยู่ เลขที่ 62 อาคารธนิยะ ชั้น 8 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทร: 0-2236-7339 , 0-2236-7348
www.temco.co.th
เนื่องจากนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทเท่านั้น หากท่านเข้าชมเว็บไซต์อื่นแม้จะผ่านช่องทางทางเว็บไซต์บริษัท การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ จะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์นั้นซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท